ดำน้ำตื้น: ชลบุรี
เกาะสีชัง ถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถไปดำน้ำตื้นได้ แต่ไม่ได้เป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงในด้านการดำน้ำตื้นเทียบเท่ากับเกาะอื่น ๆ ในจังหวัดชลบุรี เช่น เกาะคราม หรือ เกาะมารวิชัย ที่เกาะสีชังมีบางจุดที่เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น เช่น บริเวณ หาดถ้ำพัง ซึ่งมีปะการังบางชนิดและปลาทะเลหลากหลาย แต่การดำน้ำที่เกาะสีชังอาจจะไม่ได้มีแนวปะการังที่หนาแน่นหรือสวยงามเท่าเกาะอื่น ๆ เนื่องจากเกาะสีชังเป็นเกาะที่มีลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างไปจากเกาะที่มีชื่อเสียงในการดำน้ำ จุดดำน้ำตื้นจะไม่ลึกมาก (ประมาณ 2-6 เมตร) และอาจจะพบสัตว์ทะเลที่มีความหลากหลาย
เกาะสีชังเหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นในแบบผ่อนคลาย และมักจะเป็นกิจกรรมเสริมจากการท่องเที่ยวทั่วไปที่เกาะสีชัง เช่น การเดินทางไปชมสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์หรือการพักผ่อนที่หาด
เกาะสาก ตั้งอยู่ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ห่างจากฝั่งประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในเกาะที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการดำน้ำตื้น เกาะสากเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ไม่มีชุมชนถาวร จึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ยังคงความเงียบสงบและความธรรมชาติที่ยังไม่ถูกแตะต้องจากการพัฒนามากนัก เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนจากความวุ่นวายและสัมผัสกับความสงบของท้องทะเลที่สมบูรณ์แบบ
ท้องทะเลรอบ ๆ เกาะสากมีความใสสะอาด สามารถมองเห็นโลกใต้ทะเลได้ ที่นี่มีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ล้อมรอบเกาะทำให้เป็นจุดดำน้ำตื้นอีกจุดที่ได้รับความนิยม จุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงในเกาะสากคือบริเวณ หาดสาก ที่มีน้ำตื้นใส และมีปะการังแข็งและปะการังอ่อนที่สวยงาม พร้อมกับฝูงปลานานาชนิด เช่น ปลาการ์ตูน ปลาผีเสื้อ ปลานกแก้ว และปลาต่าง ๆ ที่ว่ายเวียนอยู่ใกล้แนวปะการัง สามารถสนุกกับการดำน้ำตื้นได้โดยไม่ต้องไปลึกมากเพราะน้ำทะเลที่นี่มีความลึกตั้งแต่ 2-8 เมตร
เกาะล้าน ห่างจากชายฝั่งพัทยาประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในเกาะที่ได้รับความนิยมสูงสำหรับการท่องเที่ยวดำน้ำตื้น ด้วยท้องทะเลที่ใสสะอาดและแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ เกาะล้านจึงเป็นจุดหมายที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่รักการดำน้ำและต้องการสัมผัสโลกใต้ทะเลที่ยังคงความงดงาม
น้ำทะเลที่เกาะล้านมีความใสจนสามารถมองเห็นถึงพื้นทะเลได้ บริเวณชายหาดต่าง ๆ ของเกาะ ล้วนเป็นจุดดำน้ำที่มีความสวยงามและหลากหลาย เช่น หาดเทียน หาดแสม หาดตาแหวน และหาดเกาะล้าน ซึ่งแต่ละหาดมีเสน่ห์และลักษณะการดำน้ำตื้นที่แตกต่างกันไป มีแนวปะการังน้ำตื้น ฝูงปลานานาชนิด เช่น ปลานกแก้ว ปลาหมึก และปลาผีเสื้อ
จุดที่เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้นที่ได้รับความนิยม คือ หาดตาแหวน ที่นี่มีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นปลาฉลามเสือดาวตัวเล็ก ๆ หรือปลาการ์ตูนที่อาศัยอยู่ตามดอกไม้ทะเล และนอกจากการดำน้ำตื้นแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการนั่งเรือชมทิวทัศน์ที่งดงามรอบ ๆ เกาะ
ถึงแม้ว่าจะเป็นจุดที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยือน แต่ที่เกาะล้านยังคงมีจุดดำน้ำตื้นที่เงียบสงบ และน้ำทะเลที่ยังคงความสะอาดสมบูรณ์ โดยเฉพาะในช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายตอนต้นที่มีนักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านมาก
ที่ตั้ง
- ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ห่างจากชายฝั่งพัทยาประมาณ 7 กิโลเมตร
- อยู่ในเขตอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ลักษณะและจุดเด่นในการดำน้ำตื้น
- น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น
- มีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลาย
- สามารถพบเห็นฝูงปลาหลากสีสันและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอื่น ๆ
- มีกิจกรรมดำน้ำตื้นที่เกาะสาก ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะล้าน
การเดินทาง
- การเดินทางจากกรุงเทพฯ
- รถยนต์ส่วนตัว
- ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ - ชลบุรี)
- เมื่อถึงพัทยา ขับต่อไปยังท่าเรือแหลมบาลีฮาย
- ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
- รถโดยสารประจำทาง
- ขึ้นรถโดยสารจากสถานีขนส่งเอกมัยหรือหมอชิต ไปยังพัทยา
- เมื่อถึงพัทยา ต่อรถสองแถวหรือแท็กซี่ไปยังท่าเรือแหลมบาลีฮาย
- ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
- การเดินทางจากท่าเรือแหลมบาลีฮาย:
- เรือข้ามฟาก:
- มีเรือข้ามฟากไปท่าหน้าบ้านและท่าเรือหาดตาแหวนบนเกาะล้านทุกวัน
- ค่าโดยสารประมาณ 30 บาทต่อคน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
- เรือสปีดโบ๊ท:
- สำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว สามารถใช้บริการเรือสปีดโบ๊ท
- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 - 20 นาที ค่าโดยสารประมาณ 150 - 250 บาทต่อคน
เกาะไผ่เป็นเกาะร้าง ตั้งอยู่ห่างจากพัทยาประมาณ 20 กิโลเมตร ทำให้ธรรมชาติยังคงความบริสุทธิ์ ด้วยขนาดความยาว 4 กิโลเมตร และกว้าง 1.4 กิโลเมตร ทำให้เกาะนี้เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาหมู่เกาะรอบพัทยา นอกจากประภาคารขนาดเล็กแล้ว ที่นี่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างถาวรใด ๆ เกาะไผ่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลชายหาดของเกาะ แม้ว่าเกาะไผ่จะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชม แต่หากต้องการพักผ่อนบนชายหาดที่สวยงามของที่นี่ จะมีค่าธรรมเนียมต่อคน
ด้านตะวันออกของเกาะเหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น มีน้ำใสสะอาด และระดับความลึกที่อยู่ระหว่าง 4 – 8 เมตร สามารถมองเห็นแนวปะการัง ฝูงปลาสีสันสดใส และอาจมีโอกาสพบม้าน้ำที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ด้วย
ที่ตั้ง
- ตั้งอยู่ในอ่าวพัทยา ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
- ห่างจากชายฝั่งพัทยาประมาณ 23 กิโลเมตร
- เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะไผ่ ซึ่งประกอบด้วยเกาะไผ่ เกาะมารวิชัย เกาะเหลือม และเกาะกลึงบาดาล
ลักษณะและจุดเด่นในการดำน้ำตื้น
- น้ำทะเลใสสะอาด สีฟ้าเขียวมรกต
- แนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลาย เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น
- ชายหาดทรายขาวละเอียด บรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัว
- เป็นจุดดำน้ำที่ยังคงความสมบูรณ์ของธรรมชาติ เนื่องจากการควบคุมการเข้าชม
การเดินทาง
- การเดินทางจากกรุงเทพฯ
- รถยนต์ส่วนตัว
- ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ - พัทยา)
- เมื่อถึงพัทยา ขับต่อไปยังท่าเรือแหลมบาลีฮาย
- ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
- รถโดยสารประจำทาง
- ขึ้นรถโดยสารจากสถานีขนส่งเอกมัยหรือหมอชิต ไปยังพัทยา
- เมื่อถึงพัทยา ต่อรถสองแถวหรือแท็กซี่ไปยังท่าเรือแหลมบาลีฮาย
- ใช้เวลาเดินทางรวมประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง
- การเดินทางจากท่าเรือ
- ท่าเรือแหลมบาลีฮาย
- มีบริการเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือทัวร์ไปยังเกาะไผ่
- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 - 45 นาที
- ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและแพ็กเกจที่เลือก
- ท่าเรือโอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ทคลับ
- มีบริการเรือยอร์ชหรือเรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะไผ่
- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายและบริการระดับพรีเมียม
เกาะมารวิชัย ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งของเมืองพัทยา ไปทางด้านทิศตะวันตก 23 กิโลเมตร จัดอยู่ในกลุ่มของหมู่เกาะไผ่ มีความยาว 2 กิโลเมตร และมีจุดสูงสุดอยู่ที่ 64 เมตร เกาะมารวิชัยเป็นเกาะขนาดเล็ก มีเวิ้งอ่าวทรายขาว 3 แห่ง อยู่บริเวณทิศตะวันออก 2 แห่ง และอีกแห่งอยู่ทางทิศตะวันตกมีขนาดกว้างกว่า หาดมีความเป็นส่วนตัว และเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับปาร์ตี้บาร์บีคิวริมชายหาด
น่านน้ำใสที่โอบล้อมเกาะมารวิชัย เต็มไปด้วยแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และถิ่นอาศัยของปลานานาชนิด ทำให้ที่นี่เป็นจุดดำน้ำตื้นที่ยอดเยี่ยม เกาะแห่งนี้ยังมีจุดดำน้ำลึกที่น่าสนใจสองแห่ง คือ The Wall มีความลึกตั้งแต่ 9 - 25 เมตร และ The Fingers ได้รับการตั้งชื่อจากลักษณะที่คล้ายกับมือมนุษย์ ด้วยแนวปะการังที่อยู่ในระดับน้ำตื้น จึงเป็นจุดที่นักดำน้ำตื้นสามารถเพลิดเพลินไปกับความงดงามใต้ท้องทะเล ชมความงามของปะการังและสัตว์ทะเล เพียงแค่ลอยตัวอยู่บนผิวน้ำ
ที่ตั้ง
- อยู่ในอ่าวพัทยา จังหวัดชลบุรี
- เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะไผ่ ซึ่งประกอบด้วยเกาะไผ่ เกาะมารวิชัย เกาะเหลือม และเกาะกลึงบาดาล
- ห่างจากฝั่งพัทยาประมาณ 23 กิโลเมตร
ลักษณะและจุดเด่นในการดำน้ำตื้น
- น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น
- แนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ และมีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล
- เป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำและตกปลาที่ดีแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยา
การเดินทาง
- จากกรุงเทพฯ ไปพัทยา
- รถยนต์ส่วนตัว
- ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ - พัทยา)
- ใช้เวลาประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
- รถโดยสารประจำทาง
- มีรถโดยสารจากสถานีขนส่งเอกมัยไปพัทยา ตั้งแต่เวลา 05.00 – 21.00 น.
- ใช้เวลาประมาณ 2 - 2.5 ชั่วโมง
- จากพัทยาไปเกาะมารวิชัย
- เช่าเรือจากท่าเรือพัทยาใต้ เพื่อเดินทางไปยังเกาะมารวิชัย
- การเดินทางด้วยเรือใช้เวลาประมาณ 1 - 1.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและประเภทของเรือ
- ควรติดต่อบริษัททัวร์หรือผู้ให้บริการเรือในพื้นที่พัทยา เพื่อจัดการเรื่องการเดินทางและอุปกรณ์ดำน้ำตื้น
เกาะริ้น เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใน ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีพื้นที่ 0.423 ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากชายฝั่งเมืองพัทยา ประมาณ 21 กิโลเมตร เกาะริ้นมีแนวหาดทรายขาวละเอียดทอดยาวกว่า 800 เมตร และน้ำทะเลใส ระดับความกว้างของหาดเปลี่ยนแปลงไปตามน้ำขึ้นน้ำลง ใกล้ชายหาดมีแนวปะการัง เมื่อน้ำลดลงต่ำ จะสามารถเห็นฝูงปลาว่ายอยู่ใต้ทะเล
ถึงแม้ขนาดของชายหาดจะขึ้นอยู่กับระดับน้ำทะเล แต่ไม่ว่าเวลาใด ที่นี่ก็มีความงดงามเสมอ ช่วงน้ำขึ้นเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการว่ายน้ำ การลงเล่นน้ำหรือลอยตัวชมโลกใต้ทะเล แต่เมื่อน้ำลง หาดทรายขาวก็จะขยายกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สามารถนั่งพักผ่อนบนชายหาด จิบเครื่องดื่มเย็น ๆ พร้อมชมฝูงปลาว่ายอยู่ใกล้ ๆ อย่างไรก็ตาม การลงเล่นน้ำจากชายหาดในช่วงน้ำลงอาจทำได้ยากขึ้น เนื่องจากแนวน้ำจะถอยห่างออกไปสู่แนวปะการังที่มีความคม
ทางตอนเหนือและตอนใต้ของเกาะมีเกาะเล็ก ๆ สองแห่งที่โอบล้อมด้วยแนวปะการัง ซึ่งเป็นจุดดำน้ำตื้นที่ไม่ควรพลาด แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากกระแสน้ำอาจค่อนข้างแรง สำหรับผู้ที่ว่ายน้ำไม่แข็งนัก สันทรายของเกาะริ้นเป็นจุดที่ปลอดภัยกว่า สามารถพบกับฝูงปลานานาชนิด อาทิ ปลากระพงข้างลาย (Barracuda) ปลาหางแข็ง (Trevally) ปลาแจ็ค (Jack) ปลาเกล็ดเพชร (Harlequin Sweetlips) ปลากะพงแดง (Snappers) ปลาสลิดหิน (Squirrel Fish) และปลาสิงโต (Lion Fish)
ที่ตั้ง
- ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ใกล้กับเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี
- เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะที่นิยมสำหรับการดำน้ำและท่องเที่ยวทางทะเล
ลักษณะและจุดเด่นในการดำน้ำตื้น
- น้ำทะเลใสราวกับคริสตัล เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น
- มีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลาย
- เป็นจุดดำน้ำที่เงียบสงบ คนไม่พลุกพล่าน
- สามารถพบเห็นฝูงปลาหลากสีสันและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอื่น ๆ
การเดินทาง
- การเดินทางจากกรุงเทพฯ
- รถยนต์ส่วนตัว
- ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ - พัทยา)
- เมื่อถึงพัทยา ขับต่อไปยังท่าเรือที่กำหนดเพื่อเดินทางไปเกาะริ้น
- ใช้เวลาประมาณ 1.5 - 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
- รถโดยสารประจำทาง
- ขึ้นรถโดยสารจากสถานีขนส่งเอกมัยหรือหมอชิต ไปยังพัทยา
- เมื่อถึงพัทยา ต่อรถสองแถวหรือแท็กซี่ไปยังท่าเรือที่กำหนด
- ใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง
- การเดินทางจากท่าเรือ
- ท่าเรือโอเชี่ยน มารีน่า ยอช์ทคลับ
- มีบริการเรือคาตามารันหรือเรือยอร์ชไปยังเกาะริ้น
- ใช้เวลาประมาณ 1 - 1.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทของเรือ
- สามารถจองทัวร์ที่รวมกิจกรรมดำน้ำตื้นและอาหารกลางวันได้
- ท่าเรือแหลมบาลีฮาย
- มีบริการเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือทัวร์ไปยังเกาะริ้น
- ใช้เวลาประมาณ 45 นาที - 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทของเรือ
- ควรตรวจสอบตารางเวลาและจองล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงวันหยุด
เกาะคราม ตั้งอยู่ในเขตอยู่ในเขตอ่าวสัตหีบ มีเนื้อที่ 13.9 ตารางกิโลเมตร เกาะครามจัดเป็นหนึ่งในเกาะที่สวยที่สุด ของพัทยา โอบล้อมไปด้วยอ่าวและเวิ้งน้ำมากมาย ภายในเขตการดูแลของกองทัพเรือ เกาะแห่งนี้ได้รับการอนุรักษ์ให้คงความเป็นธรรมชาติและปลอดจากการท่องเที่ยวที่หนาแน่น นอกจากนี้ เกาะครามยังเป็นแหล่งอนุรักษ์เต่าทะเล ซึ่งในบางช่วงของปีจะถูกปิดไม่ให้บุคคลทั่วไปเข้าไปเยี่ยมชม ด้วยเหตุนี้ เกาะแห่งนี้จึงยังคงความบริสุทธิ์ของชายหาดที่ขาวสะอาดและเงียบสงบ เสมือนเป็นหาดส่วนตัว
เกาะครามเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยอ่าวและชายหาดอันงดงาม หาดทรายเกือบทุกแห่งบนเกาะล้วนเป็นทรายขาวละเอียดนุ่ม ทางตอนใต้ของเกาะยังมีหน้าผาหินปูนสูงชันที่ให้บรรยากาศคล้ายกับอ่าวพังงาอันเลื่องชื่อของจังหวัดภูเก็ต น่านน้ำรอบเกาะครามและช่องแคบระหว่างเกาะครามใหญ่กับเกาะครามน้อย มีน้ำทะเลใสและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการังและสัตว์ทะเลนานาชนิด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการดำน้ำตื้น (Snorkeling) และยังเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการตกปลา
นอกจากนี้ ใกล้ๆ กับเกาะครามยังมี เกาะลิง (Monkey Island) ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของฝูงลิงพื้นเมืองที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว รวมถึงหาดทรายแก้ว ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับเกาะคราม ทำให้เป็นจุดแวะพักที่เหมาะสำหรับการรับประทานอาหารกลางวันและพายเรือคายัคชมวิวทะเลอันสวยงาม
ที่ตั้ง
- ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ใกล้กับอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
- อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ
ลักษณะและจุดเด่นในการดำน้ำตื้น
- น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น
- มีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลาย
- สามารถพบเห็นฝูงปลาหลากสีสันและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลอื่น ๆ
- บรรยากาศเงียบสงบและเป็นธรรมชาติ
การเดินทาง
- การเดินทางจากกรุงเทพฯ
- รถยนต์ส่วนตัว
- ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (มอเตอร์เวย์ กรุงเทพฯ - พัทยา)
- เมื่อถึงพัทยา ขับต่อไปยังอำเภอสัตหีบ
- ใช้เวลาประมาณ 2 - 2.5 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร
- รถโดยสารประจำทาง
- ขึ้นรถโดยสารจากสถานีขนส่งเอกมัยหรือหมอชิต ไปยังสัตหีบ
- เมื่อถึงสัตหีบ ต่อรถสองแถวหรือแท็กซี่ไปยังท่าเรือที่กำหนด
- ใช้เวลาประมาณ 3 - 3.5 ชั่วโมง
- การเดินทางจากท่าเรือ
- ท่าเรือแสมสาร
- มีบริการเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือทัวร์ไปยังเกาะคราม
- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 - 45 นาที
- ควรตรวจสอบตารางเวลาและจองล่วงหน้า
- ท่าเรือบางเสร่
- มีบริการเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือทัวร์ไปยังเกาะคราม
- ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 - 30 นาที
- เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว
เกาะขาม ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ห่างจากชายฝั่งสัตหีบประมาณ 7 กิโลเมตร เกาะขามเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีธรรมชาติยังคงความสมบูรณ์ ทั้งในส่วนของป่าเขียวขจีและทะเลที่ใสสะอาด เกาะขามเป็นเกาะที่มีขนาดเล็กและมีความสงบ เป็นเกาะที่อยู่ในความดูแลของ กองทัพเรือ มีการพัฒนาสิ่งปลูกสร้างไม่มากนัก ทำให้ยังคงความเป็นธรรมชาติ ชายหาดของเกาะขามประกอบไปด้วยทรายขาวละเอียดและน้ำทะเลใสสะอาด ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่รักความสงบและต้องการสัมผัสความงดงามใต้ทะเล
เกาะขามมีจุดดำน้ำตื้นที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะบริเวณชายหาดและแนวปะการังที่รอบ ๆ เกาะ การดำน้ำตื้นที่เกาะขามจะทำให้คุณได้สัมผัสกับโลกใต้ทะเลที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ในพื้นที่น้ำตื้นจะพบเห็น ปะการังแข็ง และ ปะการังอ่อน ที่หลากหลาย รวมถึง ฝูงปลานานาชนิด เช่น ปลานกแก้ว ปลาผีเสื้อ และปลาการ์ตูนที่มักอาศัยอยู่ในแนวปะการัง
จุดดำน้ำตื้นที่เกาะขามเหมาะกับทั้งนักท่องเที่ยวมือใหม่และมืออาชีพ เนื่องจากน้ำทะเลที่นี่ไม่ลึกมากนัก (ประมาณ 2-8 เมตร) ทำให้สามารถดำน้ำได้อย่างปลอดภัยและเพลิดเพลินไปกับความงดงามของโลกใต้ทะเลที่นี่
เกาะแสมสาร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ห่างจากพัทยาประมาณ 15 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความงดงามของท้องทะเลไทย เกาะแสมสารยังเป็นพื้นที่อนุรักษ์ทางทะเลของกองทัพเรือ ทำให้มีการดูแลรักษาความสมบูรณ์ของระบบนิเวศใต้ทะเลอย่างดีเยี่ยม มีน้ำทะเลที่ใสสะอาดและแนวปะการังที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะในบริเวณที่เป็นหาดแสมสาร มีความเงียบสงบและไม่พลุกพล่าน ชายหาดที่ล้อมรอบด้วยแนวปะการังน้ำตื้น เป็นแหล่งที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการดำน้ำตื้นและสัมผัสชีวิตใต้ท้องทะเลอย่างใกล้ชิด โดยมีจุดดำน้ำตื้นอยู่บริเวณรอบอ่าวแสมสาร เช่น เกาะจวง เกาะจาน เกาะยุ้งเกลือ เกาะโรงโขน เกาะโรงหนัง
บริเวณนี้มีแนวปะการังแข็งและปะการังอ่อน ที่มีสีสันสดใส ทั้งปะการังสมองและปะการังใบไม้นานาชนิด แวดล้อมไปด้วยฝูงปลาหลากสีสัน เช่น ปลาการ์ตูน ปลาผีเสื้อ ปลานกแก้ว และปลาหมึก รวมถึงม้าน้ำและสัตว์ทะเลหายากอีกมากมาย ทำให้การดำน้ำตื้นที่อ่าวแสมสารกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับทุกคน
ดำน้ำตื้น: ระยอง
เกาะเสม็ด เป็นเกาะในตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของระยอง ที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างประเทศ อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยม มีตำนานเล่าขานที่เชื่อกันว่าคือเกาะแก้วพิสดาร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่ อาจเป็นเพราะที่เกาะเสม็ดนี้มีหาดทรายขาวละเอียดอยู่ทั่วไป เหตุที่ชื่อว่าเกาะเสม็ดก็เพราะมีต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก ชาวบ้านนำมาใช้เป็นไต้เพื่อจุดไฟ
บนเกาะเสม็ดไม่มีแม่น้ำลำคลอง เป็นภูเขาและป่าไม้เบญจพรรณ ประมาณร้อยละ 80 ของพื้นที่ ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน ช่วงเดือนพฤษภาคมมีมรสุมและคลื่นลมจัดมาก เดือนสิงหาคมมีฝนตกชุกคนที่อาศัยส่วนใหญ่เป็นชาวเกาะที่อาศัยอยู่แต่ดั้งเดิม ใช้ชีวิตอยู่กับทะเลลักษณะแบ่งปันกันรู้จักกันแบบทุกบ้าน ส่วนช่วงที่ไม่มีมรสุมจะเป็นฤดูท่องเที่ยว เนื่องจากบนเกาะมีที่พักและสถานพักตากอากาศหลายแห่ง
ภูมิประเทศ
ที่ตั้งเกาะเสม็ด อยู่ตอนบนของอ่าวไทย ห่างจากชายฝั่ง ตำบลบ้านเพ อำเภอเมืองระยอง 6.5 กิโลเมตร มีพื้นที่ 5.127 ตารางกิโลเมตร มีลักษณะแคบและยาวในแนวเหนือใต้ ยาวประมาณ 6.8 กิโลเมตร มีความกว้างที่สุด 2.5 กิโลเมตรทางทิศเหนือของเกาะและแคบเรียวยาวลงไปทางทิศใต้ มีส่วนที่แคบที่สุด 200 เมตรที่ตอนกลางและตอนใต้ของเกาะ
สภาพภูมิประเทศของเกาะเสม็ด มีสันเขาเป็นแกนยาวจากทิศเหนือลงมาทางใต้ ฝั่งตะวันตกของเกาะเป็นหน้าผาสูงชันและค่อย ๆ ลาดเอียงสู่ฝั่งตะวันออกซึ่งมีอ่าวและชายหาดที่สวยงามจำนวนมาก ส่วนฐานของเกาะอยู่ด้านทิศเหนือ ซึ่งหันเข้าสู่ฝั่งบ้านเพ มีภูเขาสลับซับซ้อนกันอยู่ 2-3 ลูก มีพื้นที่ราบขนาดเล็กรอบอ่าวต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านเหนือและตะวันออกของเกาะ บริเวณปลายแหลมด้านใต้มีเกาะเล็ก ๆ อยู่ใกล้ ๆ 3 เกาะ คือ เกาะจันทร์ เกาะสันฉลาม และเกาะหินขาว ซึ่งเป็นหินล้วน ไม่มีต้นไม้ เป็นที่อาศัยและวางไข่ของนกนางนวล
หินเพิงเป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำตื้นที่มีเอกลักษณ์ของจังหวัดระยอง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด แม้ว่าจะไม่ใช่เกาะ แต่หินเพิงถือเป็นจุดดำน้ำที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นแนวโขดหินที่เต็มไปด้วยปะการังและสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด นักดำน้ำตื้นที่มาเยือนจะได้สัมผัสกับธรรมชาติใต้น้ำที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และน้ำทะเลที่ใสสะอาด จุดดำน้ำมีทั้งระดับตื้นและระดับลึก จึงเหมาะสำหรับนักดำน้ำทุกระดับ
ที่ตั้ง
- อยู่ห่างจากเกาะเสม็ดประมาณ 10 กิโลเมตร
ลักษณะและจุดเด่นในการดำน้ำตื้น
- เป็นกลุ่มโขดหินใต้น้ำขนาดใหญ่ที่อยู่กลางทะเล มีแนวปะการัง
- มีสัตว์ทะเลอาศัยอยู่จำนวนมาก เช่น ปลาสาก ปลาผีเสื้อ และหมึกยักษ์
- เหมาะสำหรับนักดำน้ำตื้นและนักดำน้ำลึก
การเดินทาง
- จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดระยอง
- เดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง
- นั่งรถตู้จากเอกมัยไปลงที่ท่าเรือบ้านแพ
- จากท่าเรือบ้านแพไปหินเพิง
- เช่าเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือหางยาว ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที
สามารถเช่าเรือแบบเหมาลำเพื่อไปดำน้ำตื้นที่ หินเพิง เกาะกุฎี เกาะขาม และเกาะกรวย ได้
เกาะกุฎีเป็นเกาะขนาดเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ในอ่าวไทย ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแกลง จังหวัดระยอง ทางภาคตะวันออกของประเทศไทย ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่โอบล้อมด้วยท้องทะเลอันสวยงาม เกาะกุฎีจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติและกิจกรรมทางทะเล
ลักษณะทางภูมิศาสตร์
เกาะกุฎีมีพื้นที่ประมาณ 1.5 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งแผ่นดินใหญ่ประมาณ 8 กิโลเมตร สภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเนินเขาที่ปกคลุมด้วยป่าไม้ธรรมชาติและชายหาดสีขาวละเอียดที่ทอดยาวรอบเกาะ ชายฝั่งของเกาะมีลักษณะเว้าแหว่งเป็นอ่าวเล็กๆ หลายแห่ง ซึ่งกลายเป็นที่อยู่อาศัยของระบบนิเวศทางทะเลที่หลากหลาย น้ำทะเลรอบเกาะมีสีฟ้าใสจนสามารถมองเห็นพื้นทรายและแนวปะการังได้อย่างชัดเจน
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
เกาะกุฎีมีหาดทรายขาวละเอียดหลายแห่ง โดยแต่ละหาดมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน อ่าวกุฎีเป็นหาดหลักที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อน ด้วยทรายที่ขาวละเอียดและน้ำทะเลที่ใสสะอาด นอกจากนี้ยังมีอ่าวตาลุงที่เป็นจุดดำน้ำยอดนิยมเนื่องจากมีแนวปะการังที่สมบูรณ์ และหาดทรายขาวที่เงียบสงบเหมาะแก่การหลบหนีความวุ่นวาย
ความอุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเล
จุดเด่นของเกาะกุฎีคือความอุดมสมบูรณ์ของโลกใต้ทะเล มีแนวปะการังหลากหลายชนิดที่ยังคงความงดงามและสมบูรณ์ ทั้งปะการังอ่อน ปะการังแข็ง กัลปังหา และฟองน้ำทะเล นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเลนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลาการ์ตูน ปลาผีเสื้อ ปลานกแก้ว ดอกไม้ทะเล ปลิงทะเล และสัตว์น้ำอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เกาะกุฎีเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำและผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจโลกใต้ทะเล
กิจกรรมท่องเที่ยว
กิจกรรมยอดนิยมที่เกาะกุฎีคือการดำน้ำตื้น เนื่องจากน้ำทะเลใสและแนวปะการังอยู่ในระดับตื้น ทำให้แม้ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถสัมผัสความงามใต้ท้องทะเลได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น การพายเรือคายัค การนั่งเรือท้องกระจกชมปะการัง การตกปลา การเดินป่าสำรวจธรรมชาติบนเกาะ หรือเพียงแค่พักผ่อนริมชายหาดท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม
การเดินทางและที่พัก
การเดินทางไปเกาะกุฎีสามารถทำได้โดยการนั่งเรือจากท่าเรือบริเวณหาดแม่รำพึงหรือหาดแม่พิมพ์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและคลื่นลม ส่วนที่พักบนเกาะมีให้เลือกไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นบังกะโลริมชายหาดหรือเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวแนวผจญภัย
ฤดูกาลท่องเที่ยว
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวเกาะกุฎีคือช่วงฤดูร้อนถึงต้นฤดูฝน ระหว่างเดือนธันวาคมถึงพฤษภาคม เนื่องจากทะเลสงบ น้ำใส และโอกาสเจอพายุมีน้อย ควรหลีกเลี่ยงช่วงมรสุมระหว่างเดือนมิถุนายนถึงตุลาคม เพราะคลื่นลมแรงและอาจมีการงดให้บริการเรือข้ามฟาก
เกาะกุฎีจึงเป็นอัญมณีที่ซ่อนอยู่ในอ่าวไทย ที่ยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเลไว้ได้อย่างน่าประทับใจ เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความงามของธรรมชาติและต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่สู่ความสงบของท้องทะเลอันกว้างใหญ่
เกาะกรวยเป็นหนึ่งในหมู่เกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด มีน้ำทะเลใส แนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ และยังคงมีความเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ทำให้เป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสกับโลกใต้น้ำที่ไม่ถูกรบกวนมากนัก มีแนวปะการังแข็งและปะการังอ่อนที่ขึ้นกระจายตัวอยู่รอบ ๆ เกาะ โดยเฉพาะบริเวณ ทิศตะวันออกของเกาะ
ที่ตั้ง
- อยู่ใกล้กับ เกาะกุฎี เกาะขาม และเกาะปลายตีน
- อยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดระยองประมาณ 6 กิโลเมตร
ลักษณะและจุดเด่นในการดำน้ำตื้น
- มีแนวปะการังแข็งและแนวหินปะการัง
- สามารถพบ ปลาการ์ตูน ดอกไม้ทะเล และปลากระเบนจุดฟ้า
การเดินทาง
- จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดระยอง
- ใช้รถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง
- นั่งรถตู้จากเอกมัยไปลงที่ท่าเรือบ้านแพ
- จากท่าเรือบ้านแพไปเกาะกรวย
- เช่าเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือหางยาว ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที
- สามารถเช่าเรือแบบเหมาลำเพื่อไปดำน้ำตื้นที่ เกาะกุฎี เกาะขาม เกาะกรวย และเกาะปลายตีน ได้
เกาะขามเป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะแสมสาร ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ห่างจากอำเภอสัตหีบ ประมาณ 9 กิโลเมตร เกาะขามมีรูปร่างคล้ายกับตัว H มีพื้นที่ประมาณ 61 ไร่ ชายหาดของเกาะขามมี 2 บริเวณใหญ่ๆ คือ ทางด้านทิศเหนือและทางด้านทิศใต้ ชายหาดด้านทิศเหนือเป็นหาดทรายค่อนข้างละเอียด เหมาะสำหรับการว่ายน้ำและการสันทนาการทางน้ำ ส่วนทางด้านทิศใต้ เป็นหาดทรายหยาบ มีหินกรวดมดลักษณะรูปร่างต่างๆ กระจายอยู่เต็มทั่วชายฝั่งลึกลงไปในน้ำทะเลบริเวณพื้นที่ของเกาะขามจะพบกับแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์กระจายตัวอยู่รอบ ๆ เกาะ
บริเวณที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ทางทิศใต้ มีแนวปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ และปะการังสมอง ส่วนมากแนวปะการังอยู่ในเขตน้ำตื้น ในระดับ 3 - 6 เมตร จึงเหมาะสำหรับการดำน้ำท่องเที่ยว ทั้งแบบผิวน้ำ และแบบน้ำลึก นอกจากนี้ในแนวปะการังแห่งนี้ยังพบปลาทะเลที่สวยงาม ได้แก่ ปลาผีเสื้อ ปลาสลิดหิน ปลาอมไข่ ปลาปะการัง และปลารวมฝูง เช่น ปลาหางเหลือง นอกจากนี้ยังพบสัตว์ทะเลอื่นๆ ได้แก่ หอยมือเสือ หอยมือแมว ดอกไม้ทะเล ปลาอินเดียแดง กุ้ง และปู ชนิดต่างๆ ดาวขนนก เม่นทะเล และปลิงทะเล ที่มีความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเกาะขาม
จุดเด่นของอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม นอกจากจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแนวปะการังน้ำตื้นแล้ว ยังเป็นสถานที่แห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้มีการเคลื่อนย้ายปะการังที่กำลังจะเสื่อมโทรมจากมลภาวะ บริเวณเกาะเตาหม้อมาลงไว้ที่เกาะขาม เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างแนวปะการังในบริเวณที่เสริมโทรม และตายไปให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการเคลื่อนย้ายปะการังนี้ ได้ดำเนินการโดยกำลังพลกองทัพเรือ และนักดำน้ำอาสาสมัคร ทั้งนี้โดยได้รับความร่วมมือจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา จากการติดตามประเมินผลปรากฏว่า ปะการังส่วนใหญ่ยังคงดำรงชีวิตอยู่ได้และเจริญเติบโต เพื่อสร้างแนวปะการังเสื่อมโทรมให้ฟื้นคืนสู่สภาพ ที่สมบูรณ์เหมือนเดิม โดยตลอดเวลาที่ผ่านมามี นักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชนทั่วไป สนใจขอเข้าเยี่ยมชม อุทยานใต้ทะเลเกาะขามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทัพเรือภาคที่ 1 ได้จัดวิทยากรบรรยายให้แกคณะผู้เยี่ยมชม เพื่อเป็นการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ ถึงความจำเป็นในการอนุรักษ์และพัฒนาสภาพแวดล้อมทางทะเล พื้นที่ปะการังรอบเกาะขามมีพื้นที่ปะการังทั้งสิ้น 83,000 ตารางเมตร โดยแยกเป็นประเภท ปะการังเขากวาง 50,000 ตารางเมตร ปะการังก้อน 30,000 ตารางเมตร ปะการังโต๊ะ 3,000 ตารางเมตร จากการสำรวจในเบื้องต้น มีปะการังที่ดีราว 20,000 ตารางเมตร และปะการังเสียหายประมาณ 60,000 ตารางเมตร โดยในส่วนที่เสียหายนี้ได้รับการพัฒนาและเสริมสร้างปะการังแล้วเป็นพื้นที่ 14,300 ตารางเมตร แต่อย่างไรก็ตามปะการังในส่วนที่ดีพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร นั้นได้รับความเสียหายตายไป เป็นบางส่วน ทั้งนี้เนื่องจากสาหร่ายเซลล์เดียวซูซานเทลลี่ซึ่งอาศัยร่วมอยู่ในโครงสร้างปะการัง และเป็นผู้ผลิตออกซิเจนให้กับปะการังได้ตายไป โดยมีสาเหตุมาจากอุณหภูมิของน้ำที่ร้อนขึ้นกว่าปกติ อันเนื่องมาจากวิกฤติการณ์เอลนินโญ่ เหลือปะการังที่ไม่ได้รับผลกระทบ และยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เต็มที่ ประมาณ 4,000 ตารางเมตร และจากการสำรวจในเดือน ธันวาคม 2541 นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยบูรพา พบว่าปะการังบางส่วนเริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว จึงเป็นที่น่าดีใจว่า ปะการังเหล่านี้จะได้รับการปกป้องไม่ให้ถูก ทำลายจากมนุษย์ และจะกลายคืนสู่สภาพสวยงามเหมือนเดิม แต่เมื่อปี 2553 ด้วยสภาวะอุณหภูมิของโลกที่ร้อนขึ้น ส่งผลให้ปะการังเริ่มฟื้นตัวบางส่วนแล้วนั้น รวมทั้งปะการังที่ได้ทำการอนุบาลไว้ด้วยท่อพีวี เกิดการฟอกขาวเสียชีวิตไปเกือบร้อยละ 70 ของพื้นที่ และนอกจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ส่งผลกระทบกับแนวปะการังแล้ว กิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ที่กระทำในพื้นที่เกาะขาม เช่น การเดินเรือ การจอดเรือ การดำน้ำ การทิ้งขยะ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ยังส่งผลกระทบกับแนวปะการังโดยตรงอีกด้วย ซึ่งเดิมโครงการอุทยานใต้ทะเลเกาะขามได้มีการวางทุ่นสำหรับผูกเรือ ป้องกันการทอดสมอทำลายแนวปะการัง และวางทุ่นหมายเขตแนวปะการังเพื่อกำหนดช่องทางการเดินเรือ ป้องกันไม่ให้เรือแล่นเข้าไปในหมู่ปะการังน้ำตื้น รวมทั้งในอดีตได้มีการสร้างท่อรับน้ำจืด ไว้บริเวณหัวเกาะด้านทิศตะวันออก ในการส่งน้ำจืดเรือส่งน้ำจะเกยหาดด้านทิศตะวันออก แล้วส่งน้ำไปตามท่อลำเลียงเพื่อกักเก็บไว้ใช้บนเกาะ แต่ปัจจุบันทุ่นผูกเรือ ทุ่นหมายเขตแนวปะการัง รวมทั้งท่อรับน้ำจืดชำรุดเสียหายตามอายุการใช้งาน เมื่อจำเป็นต้องส่งน้ำจืด หรือแม้แต่การรับ - ส่งคนขึ้นบนเกาะ เรือต่าง ๆ ต้องนำเรือผ่านแนวปะการังเข้าทางด้านที่เป็นหาดทรายหน้าเกาะทิศเหนือ จึงทำให้แนวปะการังเสียหายไปบางส่วน และนอกเหนือจากความสวยงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเลแล้ว เกาะขามยังมีพื้นที่ป่าชายหาดที่อุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด อาทิ จันผาที่มีอายุกว่า 100 ปี พรมตีนสูง ที่เกิดขึ้นอยู่ทั่วไปตามเส้นทางรอบ ๆ เกาะ ซึ่งเหมาะแก่การเดินศึกษาธรรมชาติของเยาวชน และประชาชนทั่วไป ที่สนใจในความหลากหลายทาง ชีววิทยาของป่าชายหาดเป็นอย่างยิ่ง
เกาะปลาตีนเป็นหนึ่งในเกาะเล็ก ๆ ของจังหวัดระยอง ที่อยู่ใน อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า – หมู่เกาะเสม็ด มีธรรมชาติที่เงียบสงบและอุดมสมบูรณ์ ด้วยน้ำทะเลที่ใสสะอาด แนวปะการังที่ยังคงความสมบูรณ์ และสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่หลากหลาย จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการดำน้ำตื้นแบบสัมผัสธรรมชาติที่ไม่ถูกรบกวน น้ำทะเลรอบเกาะมีความใสสูง ทำให้สามารถมองเห็นแนวปะการังและสัตว์ทะเลได้ง่าย มีทั้ง ปะการังแข็ง และปะการังอ่อน อยู่รอบเกาะ โดยเฉพาะทางทิศตะวันออกของเกาะ
ที่ตั้ง
- อยู่ใกล้กับ เกาะกุฎี เกาะขาม และเกาะกรวย
- อยู่ห่างจากชายฝั่งของจังหวัดระยองประมาณ 6-7 กิโลเมตร
ลักษณะและจุดเด่นในการดำน้ำตื้น
- เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ
- มีแนวปะการังอุดมสมบูรณ์และมีฝูงปลาชุกชุม
- สามารถพบ ปลาการ์ตูน ดอกไม้ทะเล ปลาผีเสื้อ และปลากระเบนจุดฟ้า
การเดินทาง
- จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดระยอง
- เดินทางโดยรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 2.5 - 3 ชั่วโมง
- นั่งรถตู้จากเอกมัยไปลงที่ท่าเรือบ้านแพ
- จากท่าเรือบ้านแพไปเกาะปลาตีน
- เช่าเรือสปีดโบ๊ทหรือเรือหางยาว ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที
- สามารถเช่าเรือแบบเหมาลำเพื่อไปดำน้ำตื้นที่ เกาะกุฎี เกาะขาม เกาะกรวย และเกาะปลาตีน ได้
เกาะทะลุ เป็นหนึ่งในเกาะสวยที่ตั้งอยู่ใน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง โดยที่นี่อยู่ในความดูแลของ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ที่นี่เป็นเกาะไม่ใหญ่มาก ที่สำคัญคือ ทะเลสวย หาดทรายขาวละเอียด เหมาะกับการไปเที่ยวดำน้ำ เพราะมีปะการังที่สวยงาม
ข้อมูลทั่วไป
เกาะทะลุ อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ห่างจากเกาะกุฎีไปทางทิศตะวันออก 6 กิโลเมตร และห่างจากเกาะเสม็ด 12 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าทึบ ด้านทิศตะวันตกเป็นผาหินสูงชัน ทิศตะวันออกและทิศใต้มีหาดทรายขาวสะอาด น้ำใส ปะการังอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การดำน้ำตื้นและดำน้ำลึก ด้านหน้าเกาะคลื่นลมสงบ ลักษณะเด่นบริเวณแหลมหิน คือมีช่องโพรงหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ช่องว่างตรงกลางน้ำทะเลสามารถทะลุผ่่านได้ จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะ สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด โทร. 0 3865 3034
ที่นี่เป็นที่ตั้งของ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก มีไฮไลท์น่าเที่ยวคือ พิพิธภัณฑ์เต่าทะเล เป็นศูนย์การศึกษาวิจัยการเพาะฟักไข่เต่าทะเล การผสมพันธุ์ การวางไข่ การอนุบาล การเลี้ยง ศึกษาพฤติกรรม ดูแลรักษาและ ป้องกันโรคของเต่าทะเล และปะการังต่างๆ นอกจากนี้ ยังมี ทะเลแหวก เกาะมันใน ซึ่งเป็นทะเลแหวกที่ยาวที่สุดในฝั่งทะเลวันตะวันออก
ข้อมูลทั่วไป
เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะมัน และตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งมากที่สุด มีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม อ่าวหินโขดหญ้า อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน
เกาะมันใน ตั้งอยู่ตำบลกร่ำ เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะมัน มีเนื้อที่ 209,600 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งมากที่สุด มีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม อ่าวหินโขดหญ้า อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน โดยเฉพาะที่อ่าวหน้าบ้านมีปะการังที่สวยงาม ส่วนอ่าวโกงกางมีทรายเรียบ เดินเล่นได้อย่างปลอดภัย
เกาะมันในเป็นสถานที่อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล โดยเริ่มดำเนินการตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงห่วงใยว่าเต่าทะเลไทยใกล้จะสูญพันธุ์ และหาแหล่งธรรมชาติในการเพาะพันธุ์ได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ในปี พ.ศ. 2522 พระองค์จึงทรงพระราชทานเกาะมันในที่เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ เพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการก่อตั้งโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลในบริเวณอ่าวไทย โดยมีชื่อโครงการว่า “โครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล” ภายใต้การดูแลของกรมประมงและกองทัพเรือ จุดประสงค์เพื่อเป็นศูนย์กลางการอนุรักษ์ เพาะพันธุ์ และขยายพันธุ์เต่าทะเล นอกจากนี้ยังทรงพระราชทานพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เต่าตนุ และเต่ากระ เพื่อใช้ในการขยายพันธุ์ต่อไป ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 โครงการได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก” ดูแลโดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สถานีอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ มีอาคารพิพิธภัณฑ์เต่าทะเล จัดแสดงนิทรรศการเพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจถึงลักษณะการดำรงชีวิต แหล่งที่อยู่อาศัย และชีวิตความเป็นอยู่ของเต่าทะเล นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างเต่าทะเลแต่ละชนิดสตัฟฟ์ไว้ให้ดูด้วย เช่น เต่ามะเฟืองขนาดใหญ่ที่พบในบริเวณเกาะมันใน
บริเวณนอกตัวอาคาร แนวหาดและโดยรอบเกาะ มีโรงเพาะฟักไข่เต่าทะเล บ่อเต่าที่เป็นพ่อแม่พันธุ์ บ่อพักฟื้นเต่าทะเลหลายชนิด เช่น เต่าหญ้า เต่ากระ เต่าตนุ บ่ออนุบาลเต่า ที่เป็นบ่อที่ปลอดเชื้อ
นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำ เดินเที่ยวรอบเกาะเพื่อศึกษาธรรมชาติ และชมปะการังรอบเกาะได้ แต่ไม่อนุญาตให้พักค้างคืนบนเกาะ เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามข้อมูล ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก โทร. 0 3866 1693-4
เกาะมันนอกเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง ตั้งอยู่ในอำเภอแกลง ทางภาคตะวันออกของประเทศไทย เป็นหนึ่งในหมู่เกาะมัน ซึ่งประกอบด้วยเกาะมันใน และเกาะมันกลาง โดยเกาะมันนอกเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งระยองประมาณ 6 กิโลเมตร ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสงบและกิจกรรมทางทะเล
ลักษณะทางภูมิศาสตร์
เกาะมันนอกมีพื้นที่ประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับกับพื้นที่ราบริมชายฝั่ง ส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าไม้ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ รอบเกาะมีชายหาดทรายขาวละเอียดทอดยาว สลับกับโขดหินธรรมชาติที่สวยงาม น้ำทะเลรอบเกาะใสสะอาด มีสีฟ้าอมเขียวที่สวยงาม ทำให้มองเห็นพื้นทรายและแนวปะการังได้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนเมื่อทะเลสงบ
ความหลากหลายทางชีวภาพ
เกาะมันนอกมีระบบนิเวศที่หลากหลายทั้งบนบกและใต้น้ำ บนเกาะมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาศัยของนกหลากหลายสายพันธุ์และสัตว์ขนาดเล็ก ส่วนในทะเลรอบเกาะมีแนวปะการังที่สวยงามและยังคงความสมบูรณ์ พบปะการังหลายชนิดทั้งปะการังอ่อนและปะการังแข็ง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเลนานาชนิด เช่น ปลาสีสันสวยงาม ดาวทะเล ปลิงทะเล เม่นทะเล ปูและกุ้งชนิดต่างๆ รวมถึงเต่าทะเลที่บางครั้งอาจพบเห็นได้
กิจกรรมท่องเที่ยว
กิจกรรมยอดนิยมที่เกาะมันนอก ได้แก่:
- การดำน้ำตื้น (Snorkeling): ด้วยแนวปะการังที่อยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งมากนัก ทำให้กิจกรรมดำน้ำตื้นเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะบริเวณอ่าวลุงดำและอ่าวตาแหวน ซึ่งเป็นจุดดำน้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะ
- การดำน้ำลึก (Scuba Diving): สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์หรือได้รับการฝึกอบรม สามารถสัมผัสโลกใต้ทะเลในระดับที่ลึกขึ้น ซึ่งจะได้พบกับความหลากหลายของสัตว์ทะเลมากขึ้น
- การพายเรือคายัค: เป็นอีกกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม สามารถพายเรือรอบเกาะเพื่อชมวิวทิวทัศน์และโขดหินธรรมชาติที่สวยงาม
- การเดินป่า: มีเส้นทางเดินป่าให้นักท่องเที่ยวได้สำรวจธรรมชาติบนเกาะ สัมผัสกับพันธุ์ไม้ท้องถิ่นและอาจพบเห็นสัตว์ป่าขนาดเล็ก
- การพักผ่อนริมชายหาด: หาดทรายขาวสะอาดบริเวณอ่าวลุงดำเป็นจุดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน อาบแดด และเล่นน้ำทะเล
การเดินทางและที่พัก
การเดินทางไปเกาะมันนอกสามารถนั่งเรือจากท่าเรือบริเวณหาดแม่รำพึงหรือท่าเรือบ้านเพ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพคลื่นลม บนเกาะมีที่พักให้บริการในรูปแบบรีสอร์ทและบังกะโลริมชายหาด ส่วนใหญ่เน้นความเรียบง่ายกลมกลืนกับธรรมชาติ แต่ยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบครัน
ฤดูกาลท่องเที่ยว
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางไปเกาะมันนอกคือระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ทะเลสงบ น้ำใส เหมาะแก่การทำกิจกรรมทางน้ำ ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงฤดูมรสุม (พฤษภาคมถึงตุลาคม) เนื่องจากคลื่นลมแรงและอาจมีการงดให้บริการเรือข้ามฟาก
เกาะมันนอกจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ ด้วยความสงบ ความสวยงามของธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทั้งบนบกและใต้ทะเล ทำให้เกาะมันนอกเป็นอีกหนึ่งสวรรค์กลางทะเลอ่าวไทยที่รอให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส